เจาะลึกน้ำตาลเบเกอรี ใช้ถูก ขนมอร่อย ร้านขายดี

หลายคนคงอาจจะเคยเจอความผิดพลาดในการทำเบเกอรี ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการทำ อุณหภูมิการอบ หรือการเลือกใช้วัตถุดิบอย่าง “น้ำตาล” ซึ่งอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เบเกอรีไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ทั้งรสชาติและเนื้อสัมผัส  

การเลือกใช้น้ำตาลให้เหมาะสมกับแต่ละเมนูจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมีส่วนช่วยเรื่องความคงตัวและขึ้นฟู เก็บความชุ่มชื้น ชูรสชาติ และทำให้สีสันสวยงามน่ารับประทาน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการมัดใจลูกค้าด้วยคุณภาพและรสชาติที่โดดเด่น

น้ำตาลเบเกอรีมีความสำคัญอย่างไร

น้ำตาลที่ใช้ในเบเกอรีมีหลายชนิดและมีความแตกต่างกัน ให้รสชาติและเนื้อสัมผัสไม่เหมือนกัน โดยน้ำตาลสำหรับทำเบเกอรีจะมีความเนียนละเอียดมากกว่าน้ำตาลทรายทั่วไป เพื่อช่วยแก้ปัญหาเรื่องการละลายช้าในขนม, การขึ้นฟูไม่เต็มที่ หรือเนื้อขนมไม่เนียน อบแล้วเกิดรอยร้าว ซึ่งหากเลือกใช้น้ำตาลที่ถูกประเภทก็จะสามารถช่วยลดปัญหาในการทำเบเกอรีได้ วันนี้เรามาทำความรู้จักคุณสมบัติของน้ำตาลเบเกอรีทั้ง 3 ประเภทกันค่ะ

1. น้ำตาลเบเกอรี (Caster Sugar)

น้ำตาลเบเกอรี คือน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ที่ผ่านกระบวนการทำให้มีขนาดเล็กลง เป็นเกล็ดละเอียด จึงสามารถผสมเข้ากับส่วนผสมอื่น ๆ ได้ง่าย ช่วยลดระยะเวลาในการตีส่วนผสม ทำให้เนื้อขนมเนียนนุ่ม เนื้อเค้กขึ้นฟูเร็วขึ้น รี่ซึ่งมีส่วนช่วยแก้ปัญหาในการทำเบเกอรี ดังนี้  

  • ปัญหาเนื้อชิฟฟ่อนเกิดจุดสีน้ำตาล เกิดจากการที่น้ำตาลทรายปกติผสมกับแป้งไม่ดีพอ การใช้น้ำตาลเบเกอรีจะลดขั้นตอนในการผสม โดยที่ไม่ต้องเอาน้ำตาลไปปั่นก่อน
  • ปัญหาทำเมอแรงก์สำหรับผสมในเนื้อเค้ก หากการตีน้ำตาลที่เกล็ดใหญ่เกินไป จะทำให้ใช้เวลาในการตีกับไข่ขาวนาน ซึ่งมีผลทำให้เค้กแข็งและเป็นรูภายในได้
  • ปัญหาเค้กไม่เนียน แข็งหรือแห้งเกินไป หากใช้น้ำตาลเบเกอรีจะช่วยให้ตัวแป้งขึ้นฟูได้เร็วขึ้น

2. น้ำตาลทรายแดงสำหรับเบเกอรี (Brown Sugar for Bakery)

น้ำตาลทรายแดงสำหรับเบเกอรี คือน้ำตาลทรายแดงที่ผ่านกระบวนการร่อนจนได้เนื้อสัมผัสเนียนละเอียด สะดวก พร้อมใช้งาน หมดปัญหาการจับตัวกันเป็นก้อน โดยมีจุดเด่นอยู่ที่กลิ่นหอมจากอ้อยธรรมชาติ ให้รสชาติหวานละมุน ช่วยให้เบเกอรีมีสีน้ำตาลสวยน่ารับประทาน นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยแก้ปัญหาในการทำเบเกอรี ดังนี้ 

  • ปัญหาเมนูบราวนี่ที่มีรสชาติหวานแหลมจนเกินไป เพราะต้องใช้ปริมาณน้ำตาลเยอะเพื่อความชุ่มฉ่ำและการขึ้นฟิล์ม หากใช้น้ำตาลทรายแดงสำหรับเบเกอรีจะช่วยคงความชุ่มฉ่ำและช่วยให้รสชาติหวานละมุนกำลังดี
  • ปัญหาเมนูทาร์ตที่เนื้อไม่กรอบร่วน น้ำตาลทรายแดงสำหรับเบเกอรีจะช่วยให้ตัวแป้งกรอบร่วนตามที่ควรจะเป็น
  • ปัญหาการอบคุกกี้ให้ได้สีน้ำตาลสวย แต่ไม่เป็นแบบที่ตั้งใจจากการเลือกใช้น้ำตาลผิดประเภท ทำให้ใช้เวลาในการอบนานเกินไปและกลายเป็นคุกกี้ไหม้ น้ำตาลทรายแดงสำหรับเบเกอรีจะช่วยเรื่องสีและกลิ่นของคุกกี้

3. น้ำตาลไอซิ่ง (Icing Sugar)

น้ำตาลไอซิ่ง คือน้ำตาลทรายขาวที่ทำการบดหรือปั่นอย่างละเอียด ผสมกับแป้งมันสำปะหลัง เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อน ในอดีตนิยมนำมาใช้ในการโรยตกแต่งหน้าเบเกอรี เช่น เค้ก, ขนมปัง, และโดนัท แต่ปัจจุบันน้ำตาลไอซิ่งเริ่มมีบทบาทในการทำเบเกอรีมากขึ้น สามารถนำมาเป็นส่วนผสมในครีมหรือวิปปิ้งครีมสำหรับแต่งหน้าเค้ก เพื่อให้ครีมตั้งรูป มีความคงตัวมากขึ้น หรือผสมในเนื้อคุกกี้หรือทาร์ต เพื่อช่วยเพิ่มความกรอบยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยแก้ปัญหาในการทำเบเกอรี ดังนี้ 

  • ปัญหาการอบมาการองที่ขึ้นทรงได้ไม่ดี หากใช้น้ำตาลไอซิ่ง จะช่วยตั้งทรงให้ขามาการองขึ้นรูปได้ดีขึ้น
  • ปัญหาการละลายช็อกโกแลตสำหรับตกแต่งหน้าเค้ก บางครั้งจะออกมาเหลวจนเกินไป การใช้น้ำตาลไอซิ่งเข้าไปผสมด้วยจะทำให้ตัวซอสช็อกโกแลตจับตัวอยู่บนหน้าเค้กได้ดีขึ้น

เป็นยังไงกันบ้างสำหรับข้อมูลที่เอามาฝากกัน หวังว่าจะช่วยให้หลายท่าน ได้ความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับน้ำตาลเบเกอรีมากขึ้น และสามารถนำไปปรับใช้ให้ถูกได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำทานเองในครัวเรือนหรือทำขายสำหรับกิจการของคุณได้อย่างไร้ปัญหาค่ะ